news icom tech

อัพเดทข่าว กิจกรรม โปรโมชั่น และเทคนิคต่างๆ ให้คุณทราบก่อนใคร

แคสเปอร์สกี้ แลป เผย แบงก์ส่วนมากละเลยความปลอดภัยธุรกรรมบนโมบายดีไวซ์ลูกค้า

[News]Kaspersky : 21 August 2014


แคสเปอร์สกี้ แลป เผยแบงก์ส่วนมากละเลยความปลอดภัยธุรกรรมบนโมบายดีไวซ์ลูกค้าชี้เป็นเป้าหมายหลักของโจรไซเบอร์

จากผลการสำรวจ Global IT Security Risk 2014: Online Financial Fraud Prevention โดยแคสเปอร์กี้ แลป ร่วมกับบีทูบี อินเตอร์เนชั่นแนล พบว่า บริษัทด้านการเงินจำนวน 52% และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอีคอมเมิร์ซอีก 46% ที่เชื่อว่าพวกเขาจำเป็นต้องปรับปรุงมาตรการการป้องกันในการทำธุรกรรมทางการ เงิน และยังพบว่า มีบริษัทเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มีการคุ้มครองป้องกันดีไวซ์ให้ลูกค้าของตน ด้วย

บริษัทอีคอมเมิร์ซเป็นบริษัทที่พิจารณาเรื่องการป้องกันด้านธุรกรรมการเงิน น้อยที่สุด จากกลุ่มตัวอย่าง 16% ระบุว่าไม่มีความสนใจในการติดตั้งโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยแบบพิเศษที่ สามารถป้องกันการทุจตริตผ่านออนไลน์ได้ และอีก 38% ระบุว่า จะลงทุนติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าว

ภาพโดยรวมทั้งหมดของเหล่าบริษัทด้านการเงินหรืออีคอมเมิร์ซ พบว่า กว่า 30% ที่มีการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ต ไม่ได้วางแผนที่จะติดตั้งการป้องกันการทำธุรกรรมที่จะเกิดขึ้นสำหรับลูกค้า ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นจุดอ่อนของเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยก็ตาม นอกจากนั้นยังสามารถนำไปสู่การสูญเสียเงินของลูกค้าและบริษัทเองก็จะเสีย ชื่อเสียงและผลประโยชน์อีกด้วย ขณะเดียวกับพบว่ามีบริษัท 28% ที่ไม่สนใจจะที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันการฉ้อโกงในโมบายดีไวซ์ของลูกค้า และ บริษัทกว่า 30% ไม่พยายามที่จะรักษาข้อมูลส่วนตัวของบริษัทที่อาจจะเป็นข้อมูลที่นำไปทำธุรก รรมด้านการเงินได้ ก่อให้เกิดการโกงเงินเกิดขึ้นนั่นเอง ความคิดที่ไม่ใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องการดูแลความปลอดภัยของการใช้จ่ายเงินนี้ อาจจะนำไปสู่ผลตอบรับในแง่ลบจากบรรดาลูกค้า 3 ใน 4 ของผู้ใช้งาน คาดหวังว่าบริษัทจะมีระบบรักษาความปลอดภัยด้านการเงินที่จะเข้ามารับผิดชอบ การดูแลรักษาอุปกรณ์การใช้งานทั้งหมด และจากการสำรวจครั้งนี้พบว่า 40% ของกลุ่มตัวอย่างเหล่านี้จะต้องมีการจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกค้าแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลสถิติจากแคสเปอร์สกี้ แลป ยังระบุว่า ภัยคุกคามไซเบอร์ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยพุ่งเป้าไปที่ข้อมูลการเงิน ส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น จากข้อมูลของ Kaspersky Security Network พบว่า จำนวนของการโจมตีด้วยการใช้ซอฟต์แวร์การเงินที่ประสงค์ร้าย ได้เพิ่มขึ้นกว่า 1.4 ล้านครั้ง ระหว่างวันที่ 19 พฤษภาคม ถึง 19 มิถุนายน คิดเป็นการเพิ่มขึ้นสูงถึง 15% เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับช่วงวันที่ 19 เมษายน ถึง 19 พฤษภาคม ปีเดียวกัน

"ในปัจจุบัน คงมีอาชญากรน้อยคนที่จะวิ่งเข้าไปในธนาคารแล้วตะโกน "หยุดนะ นี่คือการปล้น" ก่อนจะเริ่มยิงปืนขึ้นฟ้า อาชญากรรมจำนวนมากได้เข้ามาอยู่ในโลกออนไลน์แทน เป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์จะมุ่งที่ธนาคารและบริษัทด้านการเงิน ในจุดที่มีระบบการป้องกันปลอดภัยน้อยที่สุด นั่นคือ ดีไวซ์ของลูกค้าและการทำธุรกรรมออนไลน์ผ่านดีไวซ์นั้นๆ ในการป้องกันภัยการเงินสำหรับลูกค้าและปกป้องชื่อเสียงของบริษัท จึงจำเป็นต้องใช้โซลูชั่นแบบมัลติเลเยอร์ที่สามารถป้องกันกลโกงได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า การใช้แพลตฟอร์มแบบยูนิไฟด์ที่ปกป้องคุ้มครองทั้งดีไวซ์ลูกค้าและการทำงาน โดยรวมของธนาคารจะป้องกันได้ดีกว่าโซลูชั่นที่ทำหน้าที่ปกป้องเพียงอย่าง เดียว" รอส โฮเกน หัวหน้าฝ่ายการป้องกันกลโกง ระดับโกลบอล แคสเปอร์สกี้ แลป กล่าว

แพลตฟอร์ม Kaspersky Fraud Prevention ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2014 นี้ ได้รับการออกแบบสำหรับธนาคาร ระบบการจ่ายเงินออนไลน์ และบริษัทอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ เซิร์ฟเวอร์ที่ติดตั้งที่บริษัทการเงินเหล่านั้นจะทำหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรม ทุกรายการเพื่อสอดส่องกิจกรรมที่น่าสงสัย แอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งในดีไวซ์ของลูกค้าจะปกป้องทุกการทำธุรกรรมออนไลน์ การนำโซลูชั่นที่มีองค์ประกอบมากมายเช่นนี้ จะช่วยปกป้องการทำธุรกรรมทุกแง่มุม ทุกขั้นตอน นอกจากนี้ ยังมีเซอร์วิสเสริมเพื่อแจ้งเตือนภัยคุกคามใหม่ๆ และเสริมนโยบายความปลอดภัยให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น