news icom tech

อัพเดทข่าว กิจกรรม โปรโมชั่น และเทคนิคต่างๆ ให้คุณทราบก่อนใคร

แคสเปอร์สกี้ เผยกลยุทธ์รุกตลาดองค์กรในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกเพิ่ม

[News] Kaspersky : 4 มกราคม 2554

นายยูยีน บูยาคิน (Eugene Buyakin) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แคสเปอร์สกี้ แลป
ผู้พัฒนาซอฟต์ แวร์โซลูชันรักษาความปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์จากประเทศรัสเซีย

แคสเปอร์สกี้ เผยกลยุทธ์รุกตลาดองค์กรในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกเพิ่ม หลังประสบความสำเร็จในตลาดยุโรป ทุ่มงบการตลาดเต็มพิกัดสร้างทั้งแบรนด์และมาร์เก็ตแชร์ มั่นใจภายใน 5 ปีเบียดแท่นผู้นำตลาด

นายยูยีน บูยาคิน (Eugene Buyakin) ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร แคสเปอร์สกี้ แลป ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์โซลูชันรักษาความปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์จากประเทศ รัสเซีย กล่าวว่า ตลาดเอเซียแปซิฟิกเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์ที่ทางบริษัทโฟกัสเป็นพิเศษต่อจากนี้ ไป โดยเฉพาะตลาดเอสเอ็มอีจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นตลาดที่ทางบริษัทยังไม่ได้เข้าทำกิจกรรมการตลาดมากนัก ถึงแม้จะมีจำนวนผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ขององค์กรไม่มากก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางบริษัทสร้างชื่อในกลุ่มคอนซูเมอร์มาก่อน จนเป็นที่รู้จักแบรนด์แคสเปอร์สกี้ได้ดีระดับหนึ่งแล้ว

“2-3 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทเชื่อว่า แบรนด์แคสเปอร์สกี้ค่อนข้างเข็มแข็งในกลุ่มคอนซูเมอร์ แต่สำหรับตลาดองค์กร โอกาสทางการตลาดของแคสเปอร์สกี้ในตลาดเอเซียแปซิฟิกนี้ยังใหญ่ ที่ผ่านมาเรายังไม่ได้โฟกัสในตลาดองค์กรเท่าไรนัก แต่จากปีนี้ แคสเปอร์สกี้จะโฟกัสเป็นพิเศษ”

นายยูจีน ยอมรับว่า ตลาดหลักของผลิตภัณฑ์ในตลาดองค์กรของแคสเปอร์สกี้ ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ตลาดหลักยังอยู่ที่ประเทศรัสเซีย และประเทศในยุโรป ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะมีการปรับกลยุทธ์ตลาดองค์กรไปจากเดิม ด้วยการขยายตลาดองค์กรไปยังภูมิภาคอื่นมากขึ้น

ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา หากเอ่ยถึงบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์โซลูชันรักษาความปลอดภัยจากภัยคุกคามบน อินเทอร์เน็ตแล้ว แคสเปอร์สกี้ถือเป็นบริษัทที่มาแรง จนปัจจุบัน แคสเปอร์สกี้ติดหนึ่งในสี่บริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดซอฟต์แวร์โซลูชันทางด้าน รักษาความปลอดภัยของโลก มีผู้ใช้ซอฟท์แวร์โซลูชันของแคสเปอร์สกี้ทั่วโลกประมาณ 300 ล้านคน

ในปี 2553 แคสเปอร์สกี้มีรายได้ประมาณ 540 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 16.24 พันล้านบาท โดยมีอัตรการเติบโตอยู่ที่ 7.8% เทียบกับปีที่แล้วที่มีรายได้เพียง 390 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 7.4% ส่วนอันดับในตลาดคอนซูแมอร์ แคสเปอร์สกี้ติดอยู่ในอันดับ 3 ของโลก ขณะที่ตลาดองค์กร แคสเปอร์สกี้ติดอันดับ 4 ของโลก

ปัจจุบัน แคสเปอร์สกี้มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าในตลาดคอนซูเมอร์ประมาณ 65% ตลาดลูกค้าองค์กรประมาณ 28% ที่เหลือเป็นรายได้จากพันธมิตรเทคโนโลยี 7%

นายยูยีน กล่าววอีกว่า ถ้าหากดูจากสัดส่วนรายได้ตามภูมิภาค บริษัทมีรายได้จากสหรัฐอเมริกา 21% ยุโรป 48% ตะวันออกไกล 24% ขณะที่รายได้จากเอเซียแปซิฟิก ถึงแม้ว่าจะมีเพียง 7% แต่ถ้าดูจากโอกาสทางการเติบโตแล้ว จะพบว่า เอเซียแปซิฟิกเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดของแคสเปอร์สกี้

“ถึงแม้ ทางบริษัทจะเข้ามาที่หลังคู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาดองค์กร แต่ด้วยชื่อเสียงผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกรี้ในกลุ่ม Geek รวมไปถึงผู้บริหารทางด้านไอทีที่ดีเยี่ยม น่าจะทำให้แคสเปอร์สกี้เข้าสู่ตลาดนี้ได้ไม่ยากนัก”

ทุก วันนี้นับได้ว่าเส้นแบ่งกั้นระหว่างอุปกรณ์ไอทีที่ใช้เป็นการส่วนตัวกับ องค์กร ไม่มีอีกต่อไปแล้วไม่ว่าจะเป็นการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์สื่อสารใหม่ๆ อย่าง ไอแพด จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ความต้องการซอฟต์แวร์ขององค์กรที่จะช่วยป้องกันรวมถึง บริหารจัดการภัยคุกคามอย่างมัลแวร์ที่มุ่งจู่โจมข้อมูลทางธุรกิจ

“เอน จิ้นที่ใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับคอนซูเมอร์กับองค์กรไม่ต่างกัน เพียงแต่องค์กรจะต้องมีความหลากหลายของอุปกรณ์ มีระดับชั้นของการป้องกัน รวมถึงความต้องการบริหารจัดการข้อมูลมากกว่า”

นายยู ยีน มีความเชื่อว่า ถึงแม้แคสเปอร์สกี้จะดูเป็นบริษัทขนาดเล็กเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดที่มี ทั้งฐานจำนวนผู้ใช้และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งการขยายตลาดนั้นไม่ได้เป็นเรื่องเกี่ยวสมการเชิงเส้นที่ว่า มีลงทุนเพิ่มขึ้นเท่าไรแล้วจำนวนรายได้จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น ถ้าหากการลงทุนนั้นไม่ได้เพิ่มมูลค่าก็ไม่มีผลแต่ประการใด ซึ่งแคสเปอร์สกี้เป็นบริษัทเอนจิเนียร์จึงให้ความสำคัญกับการลงทุนทางด้าน วิจัยและพัฒนามาโดยตลอด โดยในปีนี้ทางบริษัทลงทุนไม่ต่ำกว่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้สามารถนำเสนอเทคโนโลยีที่ตอบสนองการใช้งานองค์กรได้หลากหลายแพลตฟอร์มอ ย่างทันท่วงที

นอก เหนือจากการเปิดไลน์ผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กรตั้งแต่เอสเอ็มอี จนถึงองค์กรขนาดใหญ่ซึ่งรองรับการใช้งานหลากหลายแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการ ที่ใช้แล้ว ทางบริษัทยังได้แบ่งทีมงานซับพอร์ต ตลอดจนทีมการตลาดด้วย เพื่อให้เกิดความชัดเจนถึงความตั้งใจที่จะรุกตลาดองค์กรในเอเซียแปซิฟิก

“ปีนี้ แคสเปอร์สกี้เตรียมงบในการสร้างแบรนด์ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นในแต่ละประเทศ”

สำหรับแนวทางการทำตลาดในประเทศไทย จะกระทำผ่านเอสไอเป็นหลัก โดยยังไม่มีแผนที่จะตั้งสำนักงานสาขาในประเทศไทยช่วงนี้

แค สเปอร์สกี้ ตั้งเป้าหมายในการรุกตลาดเอเซียแปซิฟิกภายใน 3-5 ปีว่า จะเป็นผู้นำในตลาดนี้ให้ได้จากเดิมปัจจุบันเป็นเบอร์4หรือ5ในแต่ละประเทศ

นายยูยีน ยังกล่าวถึง แนวโน้มที่จะเข้ามามีบทบาทต่ออุตสาหกรรมรักษาความปลอดภัยว่า แนวโน้มแรก การเติบโตของบริษัทต่างๆ ที่หันมาเทคโนโลยี คลาวด์ คอมพิวติ้งกันมากขึ้น ซึ่งเป็นทั้งปัญหาและโอกาสต่อบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมในการหาวิธีป้องกัน ภัยคุกคามใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

แนวโน้มที่สอง คือ การเติบโตของอุปกรณ์โมบิลิตี้ต่างๆ อาทิ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่ท้าทายความสามารถของบริษัทในอุตสาหกรรมรักษาความ ปลอดภัยว่า จะให้ความรู้กับตระหนักถึงภัยคุกคามที่จะเกิดตามมาในกลุ่มผู้ใช้อุปกรณ์ เหล่านี้ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้สามารถนำไปใช้ได้ทั้งงานส่วนตัวและงานทางธุรกิจ ซึ่งเป็นความท้าทายของบริษัทในอุตสาหกรรมนี้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะสามารถรักษา ความปลอดภัยของข้อมูลได้ทันท่วงทีและครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม